[Review] แป้งผสมรองพื้น ราคาเบาๆ Sasi by Srichand

Sasi Magic Matte Foundation Powder 
ศศิ เมจิก แมท ฟาวน์เดชั่น พาวเดอร์


แป้งศศิ เป็นแป้งผสมรองพื้นจากแบรนด์ "Sasi (ศศิ)" แบรนด์เครื่องสำอางน้องใหม่ของบริษัทศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด หรือที่รู้จักกันดีกับชื่อ "Srichand (ศรีจันทร์)" ซึ่งเป็นแบรนด์เครื่องสำอางของคนไทยตั้งแต่ยุคคุณย่าคุณยาย ที่ทำออกมาเพื่อสาวผิวมันและผิวของคนไทยโดยเฉพาะ

เป้าหมายของแบรนด์ "Sasi (ศศิ)" อยู่ที่กลุ่มนักเรียน เด็กๆยุคใหม่ จะสังเกตได้จากหน้าตาแพกเกจทั้งหมดจะดูสดใสน่ารัก มีคุณภาพ ราคาน่ารัก มีตั้งแต่ 30-150 บาท ถูกและดีต่อใจ ดีต่อกระเป๋าตังค์น้องๆ ซึ่งไอเท็มต่างๆที่ออกมาก็มีทั้งแป้งฝุ่นคุมมัน, แป้งพัฟคุมมัน, แผ่นมาศ์กหน้า, ดินสอเขียนคิ้ว,  lip tint eyeliner, ครีมอาบ น้ำเป็นต้น

ไอเท็มที่ได้มารีวิวในวันนี้ก็คือ Sasi Magic Matte Foundation Powder


Sasi Magic Matte Foundation Powder  เป็นแป้งอัดแข็งผสมรองพื้นสูตรควบคุมความมัน เนื้อแป้งอัดแข็งแน่นเนียนละเอียดพอสมควร
  • มี 3 เฉดสี (W1 สำหรับผิวขาว, W2  สำหรับผิวขาวเหลือง และ W3  สำหรับผิวสีน้ำผึ้ง)
  • ขนาด 8.5 กรัม
  • ราคา 129 บาท
  • ด้านในตลับ จะมีกระจกและฟองน้ำสีขาวมาให้ด้วย
  • ด้านหลังของตลับ จะบอกเฉดสี วันเดือนปีที่ผลิต และปีที่หมดอายุ


W1 ผิวขาว, W2 ผิวขาวเหลือง และ W3 ผิวสีน้ำผึ้ง
swatch เนื้อแป้งแต่ละเฉด
รูปทางขวามือ เป็นการใช้ Sasi Magic Matte Foundation Powder #W2
พอลอง Swatch แป้งทุกสีบนใบหน้าแล้ว สำหรับเฉดสีที่ใกล้เคียงกับสีผิวของโบว์จะอยู่ระหว่าง W2 และ W3  โบว์เองเป็นคนชอบให้ผิวดูสว่าง ก็เลยลองแป้ง W2 ก่อน เนื้อแป้งเค้าจะออกสีเหลืองสว่าง
ในรูปด้านขวาคือการทาแป้งแค่รอบเดียวค่ะ กดไล่ไปเรื่อยๆ  จะเห็นว่าพอทาแล้วหน้าจะดูสว่างขึ้น ปกปิดรอยแดงรอยดำได้ดี แต่ด้วยความที่เนื้อแป้งมันไม่ได้ละเอียด ไม่บางเบา ทำให้หลังทาแป้งแล้วจะเห็นว่าแป้งบนหน้าดูหนา ไม่เป็นธรรมชาติ ตรงนี้ควรจะต้องปัดแป้งส่วนเกินออกนะคะ

Sasi Magic Matte Foundation Powder #W2
Finish Look ลุคธรรมชาติใสๆกับเทศกาลตรุษจีน [#W2]

หลังจากนั้น โบว์ยังได้ลองใช้ Sasi Magic Matte Foundation Powder #W3 เช่นกัน  ถ้าเทียบกับ #W2   ก็แน่นอนว่าสีจะเข้มกว่า แต่ก็ยังพอจะใกล้เคียงกับสีผิวอยู่
Sasi Magic Matte Foundation Powder #W3
รูปซ้ายใช้ฟองน้ำที่แถมมาในตลับ vs รูปขวาใช้ฟองน้ำ Beauty Blender [ใช้แป้งศศิ #W3]   
ลุคนี้ใช้แป้งศศิ #W3 กับฟองน้ำ Beauty Blender รู้สึกว่ามันกวาดเอาแป้งส่วนเกินออกไปได้ดีขึ้น


ลักษณะเนื้อแป้ง:
  • เนื้อแป้งในตลับดูเนียนละเอียด แต่ตอนทา รู้สึกว่าแป้งมีผงตกลงมานิดๆ
  • เนื้อแป้งปกปิดได้ปานกลางถึงมาก
  • เนื้อแป้งแมท  แป้งเกาะผิวได้ดี ติดทน ทาแล้วหน้าไม่มันวาว สำหรับผิวผสมคุมมันได้ประมาณ  5 ชม.
  • สีแป้งไม่ดรอประหว่างวัน
  • แป้งมีความหนา เกลี่ยยาก ต้องใช้กดแต้มไล่ไปเรื่อยๆ
แพกเกจ:
  • ตลับพลาสติกเบา ค่อนข้างก๊องแก๊ง ไม่แข็งแรง จัดว่าเป็นคุณภาพวัสถุดิบตามราคา 
  • ฟองน้ำที่แถมมา มีความบาง ซักไม่กี่ทีก็เปื่อยแล้ว
การใช้งาน:

  • ใช้พัฟค่อยๆ แตะเนื้อแป้ง  และกดเบาๆบนใบหน้า  (กดไล่ไปเรื่อยๆ ไม่แนะนำให้ปาดยาวเพราะจะทำให้เป็นคราบ) และค่อยแตะแป้งเพิ่มในบริเวณที่ยังต้องการการปกปิด
ข้อดี: 
  • ราคาถูก
  • คุมมัน เหมาะกับผิวผสม-ผิวมัน และต้องการการปกปิด
  • ปราศจาก พาราเบน น้ำมัน น้ำหอม และแอลกอฮอลล์ 
ข้อเสีย: 
  • ไม่มีเฉดสีสำหรับผิวเข้ม (สาวเฉด NC 30 ขึ้นไป อาจจะใช้แป้งศศิไม่ได้)
  • ไม่เหมาะกับคนผิวแห้ง เพราะมีโอกาสเป็นขุย ตกร่องได่
  • แพกเกจอ่อนแอ  ระวังเรื่องการทำตก เราทำตก 1 ครั้ง แป้งแตกกระจายไปเรียบร้อย
  • ใช้ฟองน้ำที่แถมมาทาแป้งแล้วดูหนา ไม่เป็นธรรมชาติ 
คะแนนความพอใจเฉลี่ย:  3.4/5
พิจารณาจาก

  • ราคา   5/5
  • ปกปิด 5/5
  • คุมมัน 4/5
  • ความเป็นธรรมชาติ 2/5
  • แพกเกจ 1/5

ถึงคะแนนเฉลี่ย จะออกมาน้อย แต่ส่วนตัวก็คิดว่าแป้งศศิตัวนี้เป็นแป้งที่ถูกและดีนะคะ  เหมาะสำหรับน้องๆวัยใส คนที่ต้องการความเนียนแน่นปกปิด

แต่ สำหรับสาวๆหนุ่มๆวัยทำงาน คนที่ต้องการความเรียบเนียน บางเบา ดูเป็นธรรมชาติ และคนที่มีงบไม่จำกัด ตัวนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

ยังไงก็ขอฝากสำหรับคนที่สนใจแป้งผสมรองพื้นนะคะ
หลังใช้แป้งผสมรองพื้นทุกครั้ง ควรใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดก่อนล้างหน้า เพื่อป้องกันการตกค้างของเครื่องสำอาง สาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอุดตันค่ะ

ฝากรีวิวอื่นๆ ที่ Blog ด้วยนะคะ: Beauty Review
ขอบคุณค่ะ



ช่องทางการติดตามข่าวสาร

สถานที่จำหน่าย: 
Watsons, Eveandboy, Beautrium, Stardust,
 Robinsons, Tops Market, Big C, Tsuruha,
Home Fresh Mart และ Gourmet Market



ความคิดเห็น