Okinawa เที่ยวญี่ปุ่นในราคาเบาๆ ขับรถชิวๆตระเวนกินไปเรื่อย

โอกินาว่าเป็นชื่อที่รู้จักมานานแล้ว เอาจริงๆก็รู้จักจากการอ่านหนังสือการ์ตูนตั้งแต่เด็กๆค่ะ😜 แต่ไม่เคยคิดว่าจะได้ไปเที่ยวเลย จนเมือช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ พี่ชายส่งลิงค์โปรโมชั่นสายการบิน Peach มาให้ดู บอกว่าถูกมาก ไปเที่ยวกันก่อนหลานเปิดเทอมดีกว่า ซึ่งด้วยความที่ราคาตั๋วเครื่องบินเริ่มต้นที่ 1430 บาท ตาวาวเลยละ ถูกจัง เอาว่ะไปก็ไป ยังไงโอกินาว่าก็ญี่ปุ่นเหมือนกัน

หลังจากจองตั๋วได้แล้ว ก็เหลือเวลา 9 วันก่อนเดินทางไปเกาะสวาทหาดสวรรค์ 'โอกินาว่า' ที่อยู่ใต้สุดของประเทศญี่ปุ่น ก็เร่งหาข้อมูลที่พัก-ที่เที่ยว-การเดินทางกันวุ่นวายพอดูค่ะ
พอได้ไปแล้วสนุกมาก โอกินาว่ามีอะไรมากกว่าที่คิดเยอะ อาหารการกินดีมากกกกก ราคาก็ไม่แพง

พอจบทริปนี้ ทั้งพี่ชายพี่สะใภ้ก็แนะนำให้เขียนรีวิวแบ่งปันประสบการณ์ที่ไปครั้งนี้ ก็เลยเป็นที่มาของรีวิวนี้ค่ะ  

ทริปนี้เราไปกัน 5 คน ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 4คน + เด็ก 4 ขวบอีก 1คน 
จำนวนวันเดินทาง: 4 วัน 3 คืน  (11-14 พ.ค)

Day 1: Naha Airport > Times Car Rental สาขา naha airport > Fish market Tomari Iyumachi > Blue Seal Ice Park > Okinawa Churaumi aquarium Papaiya > Churaumi Village

Day 2: Shuri Castle > Ryukyu Sabo Ashibuna > Patisserie joie joie 326 > Mihama American Village > Community & Spa Naha Central Hotel > Ramen Dambo Naha

Day 3:  Pork Tamaga Origiri Honten > NAKAMOTO tempura snack shop > Okinawa World > Okinawa Cave cafe > Naha Kokusai Dori Shopping Street > Hellio Pub > Ramen Dambo Naha

Day 4:  Fish market Tomari Iyumachi > Okinawa Outlet Mall Ashibinaa > oHacorte Bakery > T Galleria by DFS > Times Car Rental > Naha Airport


สายการบินที่ใช้บริการ: Peach Air  (Lowcost Airlines)
โปรโมชั่นตั๋วเครื่องบินนี้มีปล่อยราคาดีๆออกมาเรื่อยๆค่ะ 
  🔸  วิธีการจองตั๋วเครื่องบินของ Peach airline แนะนำว่า ให้จองผ่านเว็บบราวเซอร์บนคอมพิวเตอร์จะดีที่สุด  เพราะลองจองผ่านมือถือแล้วมันจองไม่ได้ค่ะ
  🔸  ราคาปกติเริ่มต้นขั้นต่ำมักจะอยู่ที่ 3180 บาท/เที่ยว ซึ่งราคานี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียม ภาษีสนามบิน ค่าโหลดกระเป๋านะคะ
  🔸 โปรตั๋วที่เชื้อเชิญเราไปคือราคาเริ่มต้น 1430 บาท/เที่ยว ซึ่งก็บอกเลยว่าจองไม่ได้ราคานี้ค่ะ 555  เสียดายอยู่ แต่ตั้งใจจะไปกันแล้ว สุดท้ายก็ตัดสินใจจองไปค่ะ  
ไฟล์ททั้งขาไปกลับเวลาดีมาก คือไปถึงเช้า สามารถเที่ยวได้เลย ส่วนขากลับ ไฟล์ทดึก สามารถเที่ยวได้เต็มวัน

  🔸 ตอนเลือกตั๋วเครื่องบิน เราสามารถเลือก package ตั๋วได้นะคะ สำหรับเราเลือก Value Peach เลือกที่นั่งฟรี โหลดกระเป๋าฟรี 1 ใบ ซึ่งก็ขอแนะนำสำหรับบางคนที่คิดว่าโอกินาว่าอาจจะไม่ค่อยมีอะไรดึงดูดขาช็อปเท่าไร และอยากประหยัดค่าตั๋ว โดยการไม่เลือกแบบเพิ่มน.น. โหลดกระเป๋า 20 กก.อาจจะเสียใจภายหลัง ถ้าเจอสินค้าโดนใจ แล้วอยากซื้ออยากขน แต่นน.เป๋าไม่พอ หรืออาจจะต้องไปจ่ายเพิ่มนน.ตอนกลับ ซึ่งราคาจะแพงกว่าซึ่งหน้าเว็บนะคะ
ความแตกต่างของชนิดตั๋ว


  🔸 เพื่อความสบายใจ ควรเตรียมเครื่องชั่งนน.กระเป๋าไปด้วยนะคะ ถือเป็นไอเท็มสำคัญที่ทำให้การจัดกระเป๋าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และไม่ต้องเสียอารมณ์ตอนเช็คอิน ที่ต้องรื้อของออก จัดเข้าๆออกๆกันใหม่
  🔸 สรุปตั๋วและค่าธรรมเนียมทุกชนิดบวกไปบวกมาทุกอย่าง สำหรับผู้ใหญ่ 4+เด็ก 1 คน  เราจ่ายทั้งหมด 49,450 บาท 

สายการบิน Peach Air
ข้อดี
1. Direct fight บินตรง ไม่เสียเวลา
2. มี Promotion ออกมาเรื่อยๆ ราคาไม่แพง (มีปล่อยตั๋วเริ่มต้น 980 บาทด้วยนะคะ)

ข้อเสีย 
1. ขากลับจะเข้มงวดเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเดินทางมาก แชร์น้ำหนักกระเป๋ากันไม่ได้นะคะ
   🔸  กระเป๋าโหลดใต้เครื่อง 1 ใบได้ 20 kg (980 บาท)
   🔸  Carry on Baggage/กระเป๋าพกขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ ซึ่งรวมกันแล้วต้องไม่เกิน 7.0 kg
2. เปิดให้ Check-in โหลดกระเป๋าช้ามากๆ  ไม่มี Check-in Online แต่มีตู้ Check-in อัตโนมัติที่สนามบิน Naha  (แนะนำให้ไป Check-in ก่่อนนะคะ จะได้ไม่เสียเวลาที่เคาน์เตอร์)
3. ที่นั่งค่อนข้างเล็กค่ะ 
   🔸  ทริปนี้เราลองนั่งทั้งแบบ Standard Seat และ Pleasure Seat มาแล้ว  ส่วนตัวแล้วไม่รู้สึกว่าต่างกันมา แต่ชอบ Pleasure Seat เพราะจะนั่งสบายกว่า มีพื้นที่ให้คนขายาวมากกว่า 
   🔸  สำหรับผู้ชายตัวสูง+ขายาว ไม่แนะนำ Standard Seat เพราะเห็นพี่ชายสูง 176 ซม.นั่งขาตรงๆไม่ได้  ต้องเบี่ยงข้างเอา
4. สายการบินไม่มีหมอนและผ้าห่ม
5. อาหารเครื่องดื่ม ไม่มีบริการฟรีค่ะ แต่มีขายบนเครื่องนะคะ
6. สำหรับพ่อแม่ที่นำรถเข็นเด็กไป 
   🔸  ขาออกจากสุวรรณภูมิ เราสามารถเข็นรถเข็นเด็กไปถึงหน้า Gateได้ค่ะ
   🔸  ขากลับเข้าประเทศต้องเอารถเข็นเด็กโหลดตั้งแต่เคาน์เตอร์เช็กอินเลย แล้วให้เด็กใช้รถเข็นเด็กของสนามบิน ซึ่ง....เข็นไปถึงได้แค่ตรงที่สแกนกระเป๋า ก็ไม่สามารถเข็นต่อไปได้จ้าาา ต้องจอดทิ้งค่ะ ถ้าเด็กเดินได้เอง ก็จะดีหน่อย แต่ถ้าร้องให้อุ้ม ก็อุ้มเอาโลดจ้าาาาา เดินไกลพอสมควรกว่าจะถึงGate  อ้อ...ถ้าถามว่าถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว รถเข็นมาจอดรอเราตรงหน้าประตูเครื่องหรือไม่ ...ไม่จ้าา รอรับตรงสายพานโล้ด พ่อแม่เตรียมอุ้มลูกน้อยๆยาวไปเลยจ้า กว่าจะถึงตม. 😓

การเช่ารถ
การเดินทาง: ทริปนี้เราตั้งใจจะไป Aquarium ก่อน ก็เลยคิดว่าเช่ารถขับน่าจะสะดวกที่สุด
ซึ่งก่อนตัดสินใจเลือกรถ ก็เช็คเทียบราคากันหลายที่ + ดูร้านเช่าที่มีเคานเตอร์ให้บริการที่สนามบิน Naha มีบริการรับส่ง + มีโปรโมชั่นส่วนลด อย่างเช่น
  • ถ้าเช่า Times Car Rental จะได้รถ Mazda Premacy (Mazda5)  (7 ที่นั่ง เก็บกระเป๋าได้อย่างน้อย 3-4 ใบ) 
  • ถ้าเช่า OTS Rent-A-Car จะได้ SIENTA (5ที่นั่ง กระเป๋า 2 ใบ) หรือ Prius  
  • Toyota Rent a Car  มันไม่ระบุว่าเราจะได้รถรุ่นไหน กำลังเท่าไร? 
    โดยรวมๆแล้ว ราคาค่าเช่าก็ต่างกันเล็กน้อย ประมาณ 1000 เยน แต่ดูจากความต้องการของเรา ก็เลยเลือกใช้บริการของ Times Car Rental เพราะ
    1. มีเคานเตอร์ให้บริการที่สนามบิน Naha + มี Shutter bus รับส่งที่สนามบิน-ร้านเช่ารถ 
    2. ได้รถที่ต้องการ เพราะว่าเรามีเด็ก รถเข็นเด็กและกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ ก็คิดว่าหารถหลังคาสูง Mazda 5 ก็น่าจะดี จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระด้วย

    สรุปก็เลือกรถเช่าสำหรับเวลา 4วัน + Booster seat  สำหรับเด็ก 4 ขวบขึ้นไป + มี GPS Navigation ภาษาอังกฤษ + ETC Device (ประมาณ easypass เมืองไทย) + ประกันแบบ Super Safety Package คุ้มครองทุกอย่าง รวมแล้วค่ารถ 30800 เยน 
    ข้อมูลเพิ่มเติม
      🔸 เราดูจากเว็บ https://www.visitokinawa.jp/transportation/transportation-in-okinawa/rental-car  ซึ่งเค้าแนะนำบริษัทเช่ารถที่มีจุดบริการรับสงที่สนามบิน Naha 
    นอกจากเว็บนี้แล้วก็ยังดูได้จาก klook / kkday / ToCoo  และอื่นๆ

      🔸 ก่อนคืนรถ ต้องเติมน้ำมันเต็มถังและนำใบเสร็จมายื่นให้พนักงานตอนทำเรื่องคืนรถ
      🔸 ถ้าต้องการเปลี่ยนสาขารับหรือคืนรถ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ
      🔸 สำหรับ Times Car Rental กรณีต้องการรับรถ/คืนรถที่สนามบิน เลือก Pick-up Station เป็น Naha Airport ค่ะ

    ** แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเรื่อง  การจอดรถและการจ่ายเงิน  ก่อนไปนะคะ ไม่ยากอย่างที่คิด **


    การจองโรงแรม:
    การจองโรงแรม: จองผ่านเว็บ Booking (เพราะได้ promotion ส่วนลดรร.จากบัตรเครดิตกรุงศรี) 
    1. Churaumi Village (1st village) 1 คืน ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ/Churaumi Aquarium
    2. Community & Spa Naha Central Hotel 2 คืน เพราะห้องกว้าง ราคาดี อยู่ย่านช็อปปิ้งและของกิน


    หลังจากตัดสินใจจองรถ จองโรงแรมเรียบร้อย เราถึงได้สรุปแผนการเดินทางทริปนี้คร่าวๆ พร้อมเดินทาง ^^ (คร่าวๆจริงๆ ทำแผนเดินทาง หาที่กินเสร็จก่อนเดินทางแค่ 1 วัน)

    เตรียมตัว Check-in ก่อนเดินทาง

    เนื่องจากเครื่องออก 01.25 ของวันที่ 11/05/2019 (วันพรุ่งนี้)  พวกเราก็เลยมานัดเจอกัน 3 ทุ่มที่สนามบินสุวรรณภูมิกันก่อน  แต่กว่าเราจะเก็บของเสร็จ กว่าจะถึงสุวรรณภูมิก็เกือบ 4 ทุ่มค่ะ โชคดีที่รถไม่ติด และที่จอดรถครั้งนี้หาไม่ยาก 
    แต่ก็ไปจบที่การรอ check-in  สายการบินนี้เปิดให้เช็กอิน ก่อน 2 ชม. ถ้าไปก่อนอาจจะหาเคาน์เตอร์เช็กอินไม่เจอค่ะ 

    ทริปนี้ เราเช็คอินที่เคานเตอร์ โซน M  แต่พอรู้พิกัด พวกเราก็รีบไปต่อคิวรออย่างไม่ย้อท้อ ก็รอสักพักใหญ่เลยค่ะ  

    check-in เสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่ม ก็รีบพุ่งตัวไป Miracle Lounges อย่างด่วนค่ะ แต่ต้องขอบอกก่อนว่า เนื่องจากว่าเราไม่ได้เดินทางโดย TG จึงไม่สามารถใช้สิทธิ์ของบัตรเครดิตในการใช้ Royal Orchid Lounge ได้ ก็โชคดีที่พี่ชายและพี่สะใภ้ใช้บัตรเครดิตของ Citi Premier จึงสามารถใช้สิทธิ์ ที่ Miracle Lounge ได้ แต่เรามีผู้ใหญ่ 4 คนกับเด็ก 1 คนน่ะสิ นึกว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มซะแล้ว แต่ว่าเจ้าหน้าที่แจ้งว่า บัตรนี้สามารถใช้Lounge ได้ 2 ครั้งต่อปี เจ้าของบัตรสามารถ เลือกใช้สิทธิ์นั้นพาผู้ติดตามเข้าได้ เราก็เลยได้ใช้บริการโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

    แนะนำว่า ควรเลือกเข้าใช้ที่ Miracle Lounge ที่โซน D (ยอมเดินไปไกลมากก เพราะ Gate เราอยู่โซน C ก็จริงแต่ Lounge โซน C เล็กมากกกกกกกก )
    อาหารของเค้าดีมีคุณภาพตามคำรำลือจริงๆค่ะ  พออิ่มกันก็ไปล้างหน้าล้างตา นั่งพักรอเวลาขึ้นเครื่องนอน

    Day 1

    01.25 เครื่องออกตรงเวลาค่ะ จากนี้ใช้เวลา 4 ชม.ถึงจะถึงโอกินาว่า 
    08.00 (เวลาที่โอกินาว่า) ถึง Naha airport 
       🔸 มีการปรับปรุงสนามบินดีขึ้นค่ะ ไม่เป็นเหมือนที่เคยอ่านรีวิวมาก  ที่สำคัญไม่ต้องย้าย Terminal เราตรงไปต.ม. ได้เลย 
       🔸 การผ่านดานตรวจคนเข้าเมือง ไม่ยุ่งยากค่ะ มีสักถามเล็กน้อยแต่ก็ไม่ใช้เวลานาน 
       🔸 พอออกมาที่ lobby ด้านหน้าตรงทางออกของ international terminal  พวกเราก็เห็นเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อเหลืองถือป้าย Times Car Rental ยืนอยู่แถวนั้น  แถวนั้นจะมีเคานเตอร์สำหรับเช่ารถของบริษัทรถต่างๆ   คนที่ไม่ได้จองล่วงหน้า ก็สามารถจองที่เคานเตอร์ได้ค่ะ 
    พอยื่นเอกสารการจองรถให้เจ้าหน้าที่เค้าดู เค้าก็ให้ใบรับรถมา แล้วให้เราไปที่ Shuttle bus stop no.11 สักพักรถShuttle bus ก็มารับ
    ไม่ต้องกลัวว่าจะขึ้นรถผิด สติกเกอร์บริษัทชัดเจน
    จากนั้นไม่ถึง 5 นาที ก็ถึงศูนย์เช่า Times car rental สาขา Naha Airport 
    พอเข้าไปด้านใน หมายเลขคิวรับรถจะแสดงอยู่ที่บอร์ดว่าให้ไปเคานเตอร์เบอร์อะไร
    เอกสารที่ใช้ก็มีแค่
         1. หมายเลขการจองรถ
         2. ใบขับขี่สากล ถ้าใครที่ไปแล้วกะว่าจะสลับกันขับ ต้องยื่นใบขับขี่สากลของคนที่จะขับให้เจ้าหน้าที่นะคะ ไม่งั้นเวลามีปัญหา ตำรวจเรียกดูเอกสารแล้วพบว่าคนขับรถไม่ตรงกับข้อมูลในเอกสาร จะโดนปรับได้
         3. บัตรเครดิต/เงินสด กรณีที่ไม่ได้จ่ายตั้งแต่ตอนจองรถ

    พอเรื่องเอกสารเรียบร้อย เจ้าหน้าที่จะแนะนำการขับรถ ป้ายจราจรที่ควรรู้ กฏหมายคร่าวๆที่ควรรู้ให้ค่ะ  แล้วก็พาไปรับรถ เช็คสภาพรถพร้อมๆกัน และสอนการใช้รถ การใช้ GPS ให้คร่าวๆด้วยโดย GPS Navigation ในรถ สามารถตั้งพิกัดได้จาก MAP Code และ เบอร์โทร ซึ่งการใช้งานก็ไม่ยากค่ะ
    รถ Mazda Premacy (Mazda5)ในรูปเป็นรถที่ใช้จริงแต่ไม่ได้ถ่ายที่จุดรับรถนะคะ
    ความจุข้างหลังรถ Mazda5 ประมาณนี้ค่ะ  จริงๆมีรถเข็นเด็กอันใหญ่อีกคันค่ะถือว่ากว้างพอสมควร


    การใช้ GPS Navigation ที่มากับรถ
      🔸  ใช้ไม่ยาก แต่เมนูมักจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่เสียงเลือกเป็นอังกฤษได้
      🔸  คุณต้องรู้ Map code หรือ เบอร์โทรของเป้าหมายที่จะไป
      🔸  ถ้ารถเคลื่อนไหว จะปรับ GPS ไม่ได้
      🔸  GPS routing แม่นยำจริงแต่บางทีเป็นเส้นทางหลักบ้างเส้นทางเก่าบ้าง ซึ่งจะต่างจาก routing จาก goole map ที่จะพาไปเส้นทาง ที่ใกล้/เร็วที่สุด

    ข้อดีของการใช้รถ: ไปไหนสะดวก แวะที่ไหนก็ได้
    ข้อเสีย: ที่จอดรถแต่ละที่เก็บเงินไม่เท่ากัน
    บางทีฟรี บางทีฟรีแค่ 30 นาที หลังจากนั้นมีค่าใช้จ่ายรายชม. ซึ่งถูกแพงแล้วแต่ที่จอดรถแต่ละที่

    รับรถเรียบร้อยก็ได้เวลาอาหารเช้า
    เป้าหมายแรก ตลาดปลา Tomari (Fish market Tomari Iyumachi) 
       🔸  Map Code:33 186 889 / Tel no: 098-868-1096 /  เปิด 6.00-18.00 / ที่จอดรถฟรี
       🔸  ที่นี่ ปลาสด ใหม่ และราคาถูกมากๆค่ะ


       🔸  ตลาดปลา Tomari เป็นตลาดท่าเรือที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโอกินาว่า เป็นที่นิยมของคนท้องที่และนักท่องเที่ยว อยู่ใกล้ตัวเมือง naha และสนามบิน naha ค่ะ ด้านในเป็นตลาดติดแอร์ อาการเย็น เดินสบาย 
       🔸  ด้านในสุดของตัวตลาด จะเป็นห้องที่สำหรับใช้แล่ปลาโดยเฉพาะค่ะ จะเห็นปลาทูน่า ปลาตัวใหญ่ๆในนั้นเพียบ  ร้านข้างในก็มีของสดๆใหม่ๆ ปลาดิบที่แล่พร้อมทานก็มี แต่จะมีแค่ 1 ร้านที่ให้บริการทานในร้านได้และสามารถซื้อปลาดิบจากร้านอื่นเข้ามานั่งทานได้ด้วย
       🔸  สำหรับคนที่ไม่อยากนั่งทานที่ร้านนี้ ก็สามารถเลือกซื้อปลาดิบจากร้านอื่นๆแล้วไปยืนทานตามโต๊ะยาวที่ทางตลาดได้จัดเตรียมไว้อยู่3-4 จุดได้ตามสบายค่ะ
    โต๊ะยาวที่มุมซ้ายของรูป เป็นมุมที่ทางตลาดเตรียมให้ลูกค้าสำหรับยืนกินกันสบายๆ


    Blue Seal Ice Park 
       🔸  Map Code: 33 341 534*43 / Tel no.:098-988-4535 / ที่จอดรถฟรี 
       🔸  จากตลาดปลา ขับตรงไป 13 นาที ก็จะถึง Blue Seal Ice Park แวะทานไอศครีมกันก่อนได้นะคะ ที่นี่สามารถเข้าเรียนทำไอศครีมได้ด้วย


    พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชูราอุมิ (Okinawa Churaumi Aquarium)
       🔸  Map Code: 553 075 797*74 / Tel no.:098-048-3748  / เปิด 6.00-18.00 / ที่จอดรถฟรี 
       🔸  แผนที่โซนจอดรถ: http://oki-park.jp/kaiyohaku/en/info/88
    แนะนำ P7 ค่ะ เป็นตึกจอดและใกล้สวนน้ำที่สุด
       🔸  ที่นี่กว้างมากค่ะ สามารถใช้เวลาอยู่ได้ทั่งวัน มีโซนให้เล่นน้ำด้วย



    ล้างมือกันก่อนนะคะ มีที่ให้ล้างมืออยู่ใกล้ๆค่ะ




    มื้อเย็นที่ Papaiya
       🔸  Tel. no: 098-048-4351
       🔸  website: https://papaiya.gorp.jp มีที่จอดรถฟรีหน้าร้านค่ะ
       🔸  อาหารหลากหลายและอร่อยมาก ไม่ผิดหวังค่ะ 

    คืนนี้ เราพักกันที่ Churaumi Village (1st village / Map Code: 553 046 264) 
       🔸  มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า จานชามมีเตรียมให้พร้อมใช้ เสมือนอยู่บ้านเราเอง   แต่เวลาเช็คอินต้องไปที่ 2nd village (Map Code: 553 076 046) จะอยู่ห่างไปอีก 700 เมตรค่ะ

    Day 2

    Shuri Castle (ปราสาทชูริ)
       🔸  Map Code: 33 164 526*71 / Tel no.:098-886-2020 
       🔸   ที่นี่มีกิจกรรม Stamp Rally ตามล่าปั๊มตราจุดต่างๆ ก็สนุกดีค่ะ เด็กน้อยที่มาด้วยจะได้ไม่เบื่อ ดูเด็กน้อยมีแรงเดิน พยายามมองหาจุดปั๊มต่างๆ ระหว่างทางจะมีจุดให้ระบายสีปราสาทสำหรับเด็กด้วยค่ะ 
       🔸   มาปราสาทชูริทั้งที ก็ควรจะแวะมานั่งจิบชาชมสวนสวยๆของที่นี่ด้วยนะคะ   

    บรรยากาศดีแต่ขนมดีกว่า แนะนำให้มาลองค่ะ อย่างที่ลองสั่งมาทาน จะเป็นชุดน้ำชาและขนมแบบดั้งเดิม 4  อย่าง (Hanabouru, Kunpen, Chiirunkou, Chinsukou)


    ร้านอาหาร Ryukyu Sabo Ashibiuna 
       🔸  ขับรถจากปราสาทชูริไป 7-8 นาที  จะมีที่จอดรถอยู่ก่อนถึง Lawson ค่ะ (ซึ่งทางร้านอาหารจะมีส่วนลดให้ด้วย) 
       🔸  ร้านจะอยู่ในซอย จะเห็นร้าน Lawson อยู่หน้าซอยค่ะ
       🔸  ไม่แนะนำให้จอดหน้า Lawson  เพราะตรงนี้คิดค่าจอดแพงมาก คือฟรี 30 นาทีแรกแต่หลังจากนั้นทุกๆ 40 นาที คิด 3000 เยนค่ะ  ทริปนี้เราพลาด มาจอดตรงนี้โดนไป 9000 เยน 
    ดังนั้น แนะนำทุกคนที่เช่ารถ ระวังที่จอดรถที่มีแผ่นโลหะล็อคให้ดีนะคะ เช็คป้ายจอดรถให้ดีๆ ว่าเค้าคิดราคายังไง จะได้ไม่พลาดเหมือนเรา 😂😂
       🔸  ร้านเปิด 2 ช่วงเวลา คือ 11.30-13.30 และ 15.30-24.00   ใครอยากชมสวนเลือกนั่ง outdoors ได้เลยค่ะ แต่อยากนั่งเย็นสบายหรือมากันเป็นกลุ่มเลือก  indoors ดีกว่า
       🔸  ร้านนี้ ความอร่อยให้ 10 เต็ม 10 ไปเลยและไม่แพงเกินไปด้วยค่ะ


    จบของคาว ไปต่อของหวานกันดีกว่าค่ะ

    ร้าน Patisserie joie joie 326   🔸  Website:https://www.joiejoie326.com/    [Tel. 098-989-7326]
       🔸  ร้านเล็กๆ แต่คุณภาพเต็มร้อย อร่อยมากค่ะ ของหมดเร็วแต่ก็มีทยอยมาเติมเรื่อยๆ
    ถ้ามาแล้ว อย่าลังเลค่ะ สั่งเลย ไม่งั้นลูกค้าที่มาทีหลัง ลูกค้าประจำเค้าจะมาเร็วเคลมเร็ว 
       🔸  มีที่นั่งเล็กๆประมาณ 6-7 ที่  เค้กราคาไม่แพงอยู่ในช่วง 400-1000 เยนต่อชิ้น  น้ำชาก็อร่อยค่ะ
       🔸  มีที่จอดหน้าร้าน จอดได้ไม่กี่คัน แต่ฟรีค่ะ

    ลูกค้าขาประจำเข้ามาที สั่งกลับแทบจะเหมาไปหมด แต่จากที่ลองทานแล้ว ไม่แปลกใจค่ะ ชิ้นเดียวมันไม่พอจริงๆ
    พออิ่มแล้วเราก็เคลื่อนตัวไป Mihama American Village (Map Code: 33 526 450*63)
       🔸  ด้วยความที่มาถึงบ่าย แดดยังร้อนอยู่ พวกเราเลยไปเดินเล่น เล่นเกมกันก่อนจะไปนั่งชิงช้าเล่นกันชิวๆ
       🔸  มันไม่ค่อยมีอะไร ก็เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้
    หลังจากนั่งชิงช้าตามที่ตั้งใจเสร็จก็กลับไป Check-in ที่พักในเมือง naha

    Community & Spa Naha Central Hotel 
       🔸  ห้องพักที่จองไว้ คือห้อง Superior Twin Room (25 ตร.ม.) กับ Deluxe Triple Room (28 ตร.ม.)  ห้องกว้างสะอาด ไม่คับแคบ   อยู่ในใกล้แหล่งช็อปปิ้ง ใกล้ถนน Kokusai dori พอสมควรค่ะ สามารถเดินไปได้สบาย
       🔸  มีที่จอดรถ แต่เสียค่าจอด 1500 เยนต่อวัน
       🔸  Map code : 33 157 655 * 76

    ร้านของกินแถวรร.ที่หาคร่าวๆไว้ค่ะ

    มื้อดึกที่ Ramen Dambo Naha สาขา Makishi 
      🔸  ร้านนี้เคยคว้ารางวัลอันดับ1 รางวัลราเมงที่อร่อยที่สุดในคิวชู  มีไม่กี่เมนูแต่อร่อยทุกเมนูค่ะ 
      🔸  ราเมง จะมี 3 อย่าง  2 แบบ คือ
                   แบบที่ 1. แบบดั้้งเดิม แบบใส่งา(...goma) และแบบต้มยำ(rekka)ที่คนไทยสามารถกินชิวๆได้สบาย
                   แบบที่ 2. ก็คือแบบที่1 เพิ่มหมู+ไข่ต้ม
    นอกนั้นก็ยังมีเมนูที่เป็นข้าว เกี๊ยวซ่า  ซึ่งลองแล้วอร่อยเหมือนกันค่ะ
       🔸  วิธีการสั่ง ก็คล้ายๆราเมงข้อสอบ ที่ต้องซื้อตั๋วจากตู้ก่อน แล้วพอยื่นให้คนขาย เค้าจะส่งกระดาษให้แผ่นหนึ่ง ในนั้นจะมีรายละเอียดว่าจะเอาเส้นนุ่มแค่ไหน เผ็ดระดับไหน จะใส่ผักชีหรือเปล่า เลือกเสร็จแล้วส่งคืนก็เป็นอันจบค่ะ
       🔸    เวลาในการรอคิวอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป


    Day 3

    Pork Tamago onigiri honten ร้านซูชิข้าวปั้นไส้หมูบด 
       🔸  ร้านเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าค่ะ ทำใหม่ๆตามออเดอร์ รอคิวไม่นาน
       🔸  มีที่นั่งให้นั่งทานอยู่ฝั่งตรงข้ามร้าน 

    Pork Tamago onigiri honten
    ต่อคิวอยู่ 15 นาทีก็ได้สั่งแล้วค่า
       🔸  ร้านฝั่งตรงข้ามก็น่าทาน เล็งไว้ตั้งแต่วางแพลนทริปนี้ เป็นแนว breakfast ชื่อ C&C BREAKFAST OKINAWA  แต่ร้านเปิด  9 โมง อดกินจ้า
    C&C BREAKFAST OKINAWA

    NAKAMOTO tempura snack shop 
       🔸  มาตามเสียงเรียกร้องของคุณพี่ เห็นมีคนรีวิวใน pantip ไว้ค่ะ ถ้าใครสนใจไป ลองดูข้อมูลที่ https://www.okinawatraveler.net/en/shop/347 ก่อนได้ค่ะ
       🔸  Map Code 232 467 296*06


    Okinawa World 
       🔸  Map Code: 232 495 332 * 71  / Tel no: 098-949-7421
    https://www.gyokusendo.co.jp
       🔸  No.1) พิพิธภัณฑ์สวนงูฮาบุพาร์ค  ถ้าพูดถึงตวามสนุกและความตื่นเต้น การแสดงของไทยเราดีกว่า
       🔸  No.5) การแสดงไอซ่า (Aiza) เป็นการแสดงการร่ายรำของชาวพื้นเมืองโอกินาว่าที่ควรดูค่ะ พวกเราไปรอก่อนการแสดงครึ่งชั่วโมง ได้เห็นการซ้อมที่แตกต่างจากการแสดงจริง ทรงพลัง และประทับใจมากค่ะ
       🔸  No.2) ถ้ำเกียวคุเซ็นโด หินงอกหินย้อยเกิดขึ้นจากปะการัง ลงถ้ำลุยเดินยาวๆ 30 นาทีค่ะ เริ่มจากทางเข้าไปขึ้นหลังสุดของ Okinawa world  

    ทางลง มีแต่บันได ขึ้นลงหลายจุดค่ะ แต่ทางออกมีบันไดเลื่อนให้ค่ะ 

    คำแนะนำ
       - ไม่แนะนำให้เอารถเข็นลงไปค่ะ ฝากไว้หรือไม่ลงไปจะดีกว่า
    ถึงเค้าจะอนุญาตให้เอารถเข็นลงไปได้ แต่ทางลงบันไดมีหลายจุดและพื้นเปียกลื่น คนยกรถเข็นจะอันตรายเอาได้
       -  ผู้ใช้รถเข็น และคนสูงอายุที่ขาไม่ค่อยดี ไม่แนะนำให้ลงไปนะคะ

       🔸  จากปลายถ้ำเกียวคุเซ็นโด พอขึ้นบันได้เลื่อนไปจะเป็น No.11-12) สวนผลไม้/Tropical Orchards  No.10)โรงหลอมแก้ว-การทำเครื่องแก้ว จากนั้นจะเข้าสู่โซนหมู่บ้านจำลองสไตล์ริวกิวแบบดั้งเดิม มีงานฝีมือท้องถิ่นให้เลือกช็อปเลือกชม 
       🔸  แวะชิมชา Buku Buku Cha ที่ตีจนเป็นฟอง ทานพร้อมกับขนมได้ที่ Bukabuka Teahouse
       🔸  เดินเลย No.7) ไปจะมีบริการสวมชุดดั้งเดิมของชาวริวกิว 500 เยน ถ่ายรูป 30 วิ โดยใช้กล้องมือถือของเราค่ะ แต่ถ้ารูปของทางร้านดีกว่า สามารถซื้อเพิ่มในราคา 1000 เยน มีชุดทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง-เด็กๆ   ราคาแค่นี้ขอเชิญแวะไปใช้บริการกันนะคะ ถูกมากๆ
       🔸  ร้านของฝาก  No.3) สามารถใช้บัตรส่วนลดที่ได้มาตอนซื้อตั๋วได้ค่ะ ไม่จำกัดขึ้นต่ำ  ควรซื้อขากลับนะ อย่าเพิ่งรีบซื้อแบบเรา ไม่งั้นต้องหิ้วลงไปเดินถ้ำจนจบทัวร์แบบเรา 😂


    Okinawa Cave Cafe
       🔸  อยู่ตรงข้าม okinawa world  เลยค่ะ
       🔸  บรรยากาศแปลกใหม่ดีค่ะ ตอนเราไปคนไม่เยอะมาก แต่กาแฟที่นี่ ขอผ่านจริงๆ  


    Naha Kokusai Dori Shopping Street
       🔸 แวะช็อปของฝาก แวะดองกี้สักนิดจิตแจ่มใส

    Helios Pub
       🔸 ด้วยความอยากกินชาบู ก็เดินตามหากัน ถามว่าอร่อยไหม ก็อร่อยใช้ได้ค่ะ เนื้อหมูดี น้ำจิ้มดี แต่ผักไม่ค่อยมี แถมจัดเป็นชุด สั่งหมูเพิ่มอย่างเดียวไม่ได้


    Ramen Dambo Naha สาขา Makishi
        🔸 คุณหลานเรียกร้องร้านนี้ก็เลยต้องมาซ้ำกันอีกรอบ รอบนี้รอนานเป็นชั่วโมงเลยค่ะ  

    เด็กน้อยชอบมาก ขอกินเองซะด้วย




    Day 4

    ตลาดปลา Tomari (Fish market Tomari Iyumachi) 
    กลับมาซ้ำส่งท้ายกันอีกรอบค่ะ 

    Okinawa Outlet Mall ASHIBINAA
       🔸  MAP CODE: 232 544 452*22


    oHacorte Bakery  
       🔸  MAP CODE:z 33 126 741*06 / Tel no. 098-869-1830 / มีที่จอดรถเสียเงินใกล้ๆค่ะ
       🔸  ร้านนี้ควรมา recommended อีกแล้ว 

       🔸  บรรยากาศดี อาหารคาว+หวาน อร่อยทุกจาน
     

    ห้าง duty free  T Galleria by DFS (MAP CODE: 33 188 297*63)
      🔸 ของแบรนด์มีพอสมควรค่ะ แต่ถ้าจะช็อปเครื่องสำอางญุี่ปุ่นอย่าง Shu uemura/Shiseido/Three/Jill Stuart แนะนำว่าไปห้างท้องถิ่นอย่าง Ryubo department store  (MAP CODE‎33 156 203*50) ดีกว่าค่ะ
      🔸 ที่นี่ไม่มี Three/Jill Stuart 
      🔸 จำกัดการซื้อ อย่างเช่น Shu uemura ให้ซื้อผลิตภัณฑ์ 1 ตัวได้แค่ 3 ชิ้นต่อ 1 passport ต่อวัน และมีของจำกัด ครีมบำรุงบางไซต์จะไม่มีขายที่นี่ แต่มีขายแค่ที่ห้างท้องถิ่น 
    สรุปคือ ถ้าจะซื้อแบบเคานเตอร์ปกติ  ก็ต้องไปห้างท้องถิ่นดีกว่าค่ะ . 
      🔸 ของที่นี่ถูกกว่าเคานเตอร์ปกติอย่างเช่น Shu uemura lip laque supreme ปกติ 3456 เยน แต่ที่นี่จะขาย 2800 เยน 
      🔸 จ่ายเงินที่นี่ ไม่ต้องทำ tax refund แต่ต้องไปรับของที่สนามบินที่ DFS ก่อน 3 ทุ่มนะคะ โดยยื่นแค่ใบเสร็จรับเงินกับ passport ค่ะ
      🔸 อยากรู้ว่าในห้างมีแบรนด์อะไรบ้าง ลองดูที่ https://www.dfs.com/en/okinawa/brands ค่ะ

    Times car rental สาขา Naha Airport 
      🔸 ก่อนกลับก็ต้องขับรถไปคืนค่ะ ยื่นแฟ้มเอกสารที่ได้ตอนรับรถพร้อมใบเสร็จที่เติมน้ำมันเต็มถังและคืนกุญแจ แค่นี้เองค่ะ   
      🔸 จากนั้นเราก็ใช้บริการ Shuttle Bus ของ Times car rental ไปส่งที่ Naha airport ประตู 3 Departure 
         
    ขับรถ 4 วัน ค่าน้ำมัน 5027 เยน

    Naha airport ประตู 3 Departure
      🔸 พอเข้าไปจะเห็นเคานเตอร์ infomation ด้านขวามือค่ะ ไม่ต้องกลัวจะหาไม่เจอนะคะ จะเห็นบอร์ด fight infomation แถวๆเคานเตอร์ค่ะ  จากนั้นเดินเลี้ยวขวาไปสักพัก จะเห็นเคานเตอร์เช็คอินของสายการบิน JAL / ANA / Peach / etc.




      🔸 แถวป้าย Check-in A จะมีตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าใบใหญ่ๆได้ด้วย ใครจะฝากกระเป๋าไว้แล้วไปทาน ข้าวที่ชั้น 3 หรือ 4 โดยไม่ต้องขนกระเป๋าไปก็ได้
      🔸 แถวป้าย Check-in B จะเป็นจุดบริการที่ชาร์จไฟค่ะ
      🔸 เคานเตอร์ของ Peach airline จะอยู่แถวๆ Check-in A ใครไปถึงสนามบินเร็ว ไป Check-in ที่ตู้ Check-in ก่อนก็ดีนะคะ
      🔸 ใครอยากจะไปช็อป duty free ควรรีบไปต่อคิวโหลดกระเป๋าแต่เนิ่นๆนะคะ  
      🔸 สำหรับแผนที่ในสนามบิน สามารถโหลดที่ Naha airport floor guide ค่ะ



    ทริปนี้ก็จบไปด้วยดี สนุกสนานและประทับใจอาหารมากค่ะ กลับเมืองไทยมาน้ำหนักขึ้นกระจาย555
    ถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาเที่ยวอีก ยังมีที่เที่ยวที่กินอีกเยอะที่ยังไม่ได้ไป

    ทริปนี้ก็ขอแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ไปมาคร่าวๆเท่าที่จำได้ เท่าที่ถ่ายรูปมานะคะ
    สำหรับข้อมูลที่เราเตรียมไว้คราวๆว่าแต่ะวันจะไปไหนได้บ้าง ของกินตรงไหนน่าไป ลองดูที่ Link นี้นะคะ



    Credit: google, pantip, facebook ที่ให้ข้อมูลดีๆมากมาย
    และ กระทู้พันทิป 'OKINAWA มากับแม่ก็ได้' ที่เป็นแนวทางในการตามหาของกินของเรา
    เที่ยวต่างๆในโอกินาว่า ดูเพิ่มที่ https://www.yui-rail.co.jp/navi/en/area/5

    ปล. ทุกคนในทริปนี้(ยกเว้นหลาน 555) ใช้ sim2fly ค่ะ
    เป็น sim เก่า เติมเงินเก็บเรื่อยๆ (มีคนแนะนำให้เติมทีละน้อย 10-20 บาท เติม 1 ครั้งจะได้ยืดอายุไปอีก 30 วัน) พอจะไปเที่ยวทีก็ใช้เงินที่เติมซื้อแพคแกจเน็ตต่างประเทศเอาค่ะ


    ความคิดเห็น